เราไปอ่านประวัติตุ๊กตาดารูมะ ในระหว่างที่เขียนต้นฉบับหนังสือ e-book “ตุ๊กตาล้มลุก” นี้ ก็ไปเจอกับข้อความหนึ่งที่น่าสนใจ
“เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนมีความหวัง เราจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงวันนี้”
ความหวังเปรียบเสมือนโอเอซิสที่หล่อเลี้ยงจิตใจ ท่ามกลางความแห้งแล้ง ของสังคมที่มีการแข่งขันมากมายนี้
นอกจากนี้ รัสเซีย ก็ยังมีตุ๊กตาล้มลุกเช่นกัน ตุ๊กตาล้มลุกของรัสเซีย ชื่อว่าตุ๊กตาไข่อีสเตอร์ ที่ทำมาจากไข่แล้วใส่เทียนไขให้มันล้มลุกได้
ตุ๊กตาดารูมะ จัดว่าเป็นตุ๊กตาล้มลุกชนิดหนึ่ง และเป็นตุ๊กตาที่เหมือนกับความหวังของคน เพราะว่า เมื่อเราได้ตุ๊กตามา เราจะทำการอธิษฐานขอให้ความหวังบางอย่าง
เป็นจริง ความหวังเหล่านั้น ถ้าเกิดเป็นจริงขึ้นมา จะทำการวาดตาซ้ายตุ๊กตาให้สมบูรณ์ เมื่อความหวังเป็นจริงแล้ว ก็ต้องนำเอาตุ๊กตาไปเผาที่วัด เพื่อให้คำขอนั้นล่วงรู้ไปถึงสวรรค์ เพื่อเป็นการขอบคุณสิ่งที่ได้รับ ซึ่งจะมีแค่วันเดียวในปีนั้น ถ้าหากพลาด ก็เท่ากับพลาดไปเลย ต้องมาใหม่ปีหน้า
การที่ตุ๊กตาดารูมะ เป็นความเชื่อที่แข็งแกร่งของคนญี่ปุ่น เป็นของฝากติดไม้ติดมือยอดนิยม นอกจากนี้ ตุ๊กตาดารูมะ ยังมีสีแดง เป็นสีของพระโพธิธรรม เชื่อว่าเป็นสีที่ขับไล่ภูติผีปีศาจและเทพฝีดาษ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคฝีดาษในยุคนั้น
เพราะว่ามนุษย์ ยังคงมีความหวัง ความหวังต่างๆ ในชีวิตว่าจะเป็นจริงขึ้นมาได้ และเชื่อว่าสิ่งนั้นจะชนะทุกอย่าง
และการที่ดารูมะเป็นตุ๊กตาล้มลุก เป็นสัญลักษณ์ของพระโพธิธรรม เป็นศิลปะที่ลึกซึ้งเกินบรรยาย ก็แสดงให้เห็นว่า ความหวังนั้น ถึงแม้มันจะดับไปครั้งนึง หรือล้มไปแล้ว มันก็สามารถกลับมาใหม่ได้ เหมือนที่ตุ๊กตาดารูมะ เด้งขึ้นมาได้
ก็ขนาดตุ๊กตายังล้มแล้วลุกได้ ชีวิตคน ก็ต้องลุกขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน เมื่อเราล้มบ่อยๆแล้วเราจะรู้ว่าสิ่งที่เราทำผิดพลาดไปในชีวิต มันคืออะไร แล้วเราก็จะสามารถแก้ไข และพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นได้