
พอดีเอาชื่อตัวเองไป search บังเอิญนะคะไปเจอ Webboard หนึ่งที่เขาพูดถึงเราพอดี
แล้วเขาก็พูดบอกว่ากลัวจะเป็นแบบพี่มุ่ยจังเลยนะ
จริงๆพอเราได้ยิน เรารู้สึกไงรู้ไหม?
ใจนึงก็ขำนะใจนึงก็ขำไม่ออกเหมือนกัน
ที่ขำคือคิดว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตเราบ้าง?
ในการที่คุณพูดว่าคุณกลัวที่จะเป็นแบบเรา
พี่บอกได้เลยว่าพี่มีความสุขดีพี่รู้สึกโอเคกับชีวิตมากนะคะ
คือที่ผ่านมาถึงแม้ว่าชีวิตพี่จะมีความเลวร้ายมีความแย่อยู่ในนั้น
แต่พี่ก็รักชีวิต พี่ไม่ได้คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เลวร้ายอะไร
ที่ขำก็คือทำไมคุณตัดสิน
ทำไมคนถึงตัดสินตัดสินเร็วตัดสินก่อน
ตัดสินใจว่าคนนั้นจะมีความสุขคนนี้จะไม่มีความสุขคนนั้นจะโอเคคนนี้ไม่โอเค
คือพี่อาจจะไม่มีความสุขในชีวิตในบางช่วง
แต่มันก็เป็นเรื่องของธรรมดาของมนุษย์เรานะคะ
เพราะฉะนั้นเนี่ยการที่เราไม่มีความสุขมันก็เป็นเรื่องของการเป็นมนุษย์
เรื่องของการเป็นคนที่เราจะต้องเกิดมาแล้วต้องเจอ
เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขทั้งตลอดชีวิต
บางทีเราเนี่ยการไม่มีความสุขมันอาจจะดีด้วยซ้ำ
เพราะว่าการที่เราไม่มีความสุข
เราจะได้รู้ว่าช่วงเวลาธรรมดาที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
แต่มันกลับโอเคเพราะว่าเราได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขโดยที่เราไม่ต้องไม่ต้องมีความทุกข์อะไร
อย่างนี้คือเวลาที่เป็นเวลาปกติธรรมดาของเรา
ที่อาจจะดูเหมือนเฉยๆ
เพราะวันนึงก็ตื่นขึ้นมาก็ไปทำงาน กินข้าว อาบน้ำนอน
นี้คือกิจวัตรประจำวันที่จริงๆแล้วคือดูเหมือนจะไม่มีความหมาย
แต่มันมีความหมายเพราะว่ามันทำให้เรา”เป็นมนุษย์จริงๆ”
เป็นมนุษย์จริงๆก็คือก็ต้องพบกับความสุขความทุกข์ความธรรมดาของชีวิตเป็นเรื่องปกตินะคะ
ทีนี้ส่วนที่ไม่ขำ ก็คือก็เป็นเรื่องเดียวกัน
ก็คือทำไมคุณต้องตัดสินชีวิตของคนอื่น?
ในเมื่อคุณเองก็มีช่วงเวลาที่ไม่มีความสุขหรือช่วงเวลาที่เป็นวิกฤตชีวิตเหมือนกัน
ทำไมคุณต้องบอกว่ากลัวจะเป็นแบบคนนั้นคนนี้?
ในเมื่อทุกคนล้วนประสบความทุกข์ความสุขในรูปแบบต่างๆกันอยู่แล้ว
ตัวคุณเองก็มีความทุกข์นะ
เพราะฉะนั้นถ้าพี่บอกว่าพี่กลัวที่จะเป็นแบบคุณเพราะว่าพี่ไม่อยากนินทาใครในเว็บบอร์ดออกสาธารณะถามว่านินทาคนก็เคยไหมก็เคยเคยบ้างนะเป็นมนุษย์ปกติปุถุชนชนแต่ว่านินทาเราจะไม่พูดถึงในแง่ว่าเขาแย่ยังไง แต่ว่าเราจะพูดถึงในแง่ที่ว่าเขามีส่วนไหนที่ไม่ดีแล้วเราเรียนรู้อะไรจากเขาได้บ้าง
คือมันไม่ใช่การที่เราไปนั่งนินทาเขาแล้วมันแล้วมันเสียเวลาในชีวิต
คือแทนที่เราจะสามารถที่จะใช้เวลานั้นในการทำสิ่งที่ดีๆสิ่งที่จะจรรโลกจรรโลงสังคม
มันก็กลายเป็นว่าเราเสียเวลาในการนินทาชีวิตของคนอื่น
บางทีที่มันไม่เกี่ยวข้องกับเราแล้วการที่เรานินทา
ชีวิตของคนนั้นก็ดีขึ้นนะ เพราะว่าเขาไม่ได้เอาเวลามานั่งนินทาเหมือนเราไง
เขาเอาเวลาไปพัฒนาชีวิตของเขาให้ดีขึ้น
สำหรับพี่เนี่ยการที่เกิดขึ้นมาเป็นโรคจิตเวชขึ้นมาเนี่ย โรคไบโพล่า disorder
คือพี่ก็อยากหาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าโรคนี้จะทำให้พี่มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตขนาดนั้น
ค่ายาอาจจะแพงก็จริงค่ายาแพงแบบ 4-5 พันกว่าเดือนนี้
แต่เรายังใช้ชีวิตได้อยู่ในแบบปกติ เรายังใช้ชีวิตได้อยู่แบบตามปกตินะคะ
แล้วเราก็สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ
สามารถทำงานได้แล้วก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว
เพราะฉะนั้นบางทีแล้วการที่น้องบอกว่าน้องกลัวที่จะเป็นแบบพี่
น้องอาจจะลืมไปว่าพี่ก็อาจจะมีความสุขแบบของพี่ก็ได้นะแบบตามอัตภาพของพี่
พี่อาจจะไม่มีความสุขในช่วงหนึ่งของชีวิตแล้วพี่ก็บ่นลงโซเชียลก็จริง
แต่ว่าในช่วงหนึ่งของชีวิตพี่ก็มีความสุขมากๆเช่นกัน
บางคนบางช่วงของชีวิตก็อาจจะบอกว่ากลัวจะเป็นแบบพี่
บางคนในช่วงชีวิตจะบอกว่าอิจฉาพี่จังเลย
บอกตรงๆก็ไปใส่ใจมากไม่ได้เหมือนกัน
เพราะว่าความรู้สึกของคนมันเป็นเรื่อง Subjective มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล
แล้วก็เป็นเรื่องที่มันลวงตาเราอยู่
เพราะว่าจริงๆแล้วคือคือคนที่เขาดูเหมือนจะมีความสุข
บางทีเขาอาจจะมีความทุกข์อยู่ข้างใน
หรือบางทีคนที่ดูเหมือนจะไม่มีความสุข
แต่จริงๆจุดนั้นมันอาจจะเป็นประสบการณ์ที่เขาอยากจะได้รับจุดนั้นก็ได้
อาจจะเป็นประสบการณ์ที่เขาอยากจะเจออยู่แล้วก็ได้
เพราะฉะนั้นการที่เราไปตัดสินโดยที่เราไม่รู้ข้อมูลลึกๆของเขาแล้วมันทำให้เราเสียโอกาสหลายๆอย่างไปอย่างเช่นเรียนรู้ทำยังไงเราถึงจะได้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเรา เช่นพี่อ่ะทำงานหนักไปแล้วก็มีความคาดหวังในชีวิตสูงเพราะฉะนั้นน้องก็สามารถเรียนรู้ตรงจุดนี้ได้ว่าบางทีคนเราอย่าทำงานหนักมากเกินไปนะคะเพราะว่าเราต้องใช้ชีวิตด้วย แล้วก็เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะซึมซับแล้วก็ Connect กับโลกรอบข้างด้วยนะคะ
เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเป็นไปได้ เราไม่ควรที่จะตัดสินอะไรเลย
หมายถึงแบบไม่ต้องกลัวชีวิตของคนอื่นไม่ต้องกลัวจะเป็นแบบเขา
เพราะว่าคุณไม่เป็นแบบพี่ก็จริงแต่คุณก็จะมีความทุกข์แบบแบบของคุณ
ซึ่งพี่ก็ไม่เป็นไม่อยากเป็นแบบคุณ
คือแต่ละคนก็ไม่อยากเป็นแบบคนนั้นคนนี้
เวลาที่คนนั้นประสบความสำเร็จหรือ success ขึ้นมาคุณก็จะบอกว่าอยากเป็นแบบคนนี้จังอยู่ๆก็ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาได้ เขาลุกขึ้นมาเร็ว
แล้วตอนที่เขาล้มอ่ะคุณก็กลัวเขาอีก พอมาตอนนี้ก็อยากเป็นแบบเขา
อารมณ์ของมนุษย์เนี่ยไม่แน่นอนเราอย่าไปตัดสินเขาค่ะ
อย่าไปตัดสินใครก็ตามที่เราไม่รู้จักเขาดี
ถึงรู้จักดีก็ไม่ควรตัดสินอยู่ดี เพราะว่ามันไม่ใช่ชีวิตมันไม่ใช่ไม่ใช่ตัวเลข
มันไม่ใช่ 1 + 1 = 2 บางที 1 + 1 มันอาจจะไม่เท่ากับ 2
เพราะว่ามันมี Factor มากมายมันเหมือนน้องปลูกต้นไม้มากกว่า
เหมือนน้องปลูกเมล็ดใช่ไหม เมล็ดน้องต้องดีด้วย
น้องปลูกในสถานที่ที่ดีมีภูมิอากาศที่ดีมันก็จะออกดอกออกผลมันก็จะโตใช่ไหม
แต่ถ้ามันมีพายุหรือต้นไม้จะโค่นล้มไประหว่างทางก็ได้เลย
เพราะงั้นคือมันไม่ใช่มันไม่ใช่เลขที่อะไรที่บวกกันออกมาแล้วมันออกมาเป็นเท่ากับสิ่งนั้นแน่นอน
ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนนะเพราะฉะนั้นอย่าไปอะไรกับมันมาก
อแล้วก็อย่าไปตัดสินคนอื่นเลย
ถ้าคุณไม่อยากเป็นแบบใคร คุณก็อย่าทำแบบเขาก็สิ้นเรื่อง
คุณก็จะไม่เป็นแบบเขาแค่นั้นเอง
ไม่ต้องไปกลัวอย่าไปกลัวเพราะถ้ากลัวสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริงๆกับคุณก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องไปกลัวชีวิตของคนอื่นนะคะเพราะอะไรเพราะว่าเราสามารถมีความสุขได้ในแบบของเราค่ะ